เดิมชื่อ "วัดเซิงหวาย" สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณปี พ.ศ.๒๓๒๖ โดยราษฎรที่อพยพหลบภัยสงครามมาจากกรุงศรีอยุธยา เพราะปรากฏว่า มีพระพุทธรูปศิลาทรายฝีมือช่างสมัยกรุงศรีอยุธยาอยู่ที่วัดหลาย องค์ สภาพวัดเดิมเป็นแบบชนบทอยู่กลางสวน ต่อมาเมื่อมีถนนตัดผ่าน จึงมีการ พัฒนาเปลี่ยนแปลงไป และได้เปลี่ยนนามใหม่เป็น "วัดเวตวันธรรมาวาส" ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๐๘ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ที่ตั้ง ซอยวัดเวตวันธรรมาวาส ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวง/เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
หลวงพ่อสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย สมัยกรุงสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๗ นิ้ว เดิมองค์ท่านถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินด้านทิศเหนือของอุโบสถ เมื่อ ประมาณ ๑๐๐ ปี ที่ผ่านมา ท่านได้เข้าฝันชาวบ้านว่า ถ้าอยากให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็น สุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ก็ให้นำท่านขึ้นบูชา จึงมีการค้นหา และนำขึ้นมาประดิษ ฐานไว้ที่วัด
พระประธาน ซึ่งประดิษฐานภายในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่แกะสลักมา จากศิลาแลง
หอระฆัง ภายในหอระฆังมีระฆังเก่าแก่สมัยกรุงธนบุรี ทำด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ที่สวย งามมาก
ภาพ/เรื่อง - สำนักงานเขตบางซื่อ กทม.
แผนที่การเดินทาง
รถประจำทางสายที่ผ่าน ได้แก่ สาย 50 ทั้งแดง ส้ม ปอ.5 ปอ.6 สาย 16 30 และ 32
งานประเพณีแห่เรือชักพระและพิธีสมโภชหลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดเซิงหวาย (วัดเวตวันธรรมาวาส)
แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒
หนังสือย่านเก่าในกรุงเทพฯ [เล่ม ๒] เล่าถึงงานชักพระที่วัดเซิงหวายแต่กาลก่อนว่ามีเส้นทางของขบวนแห่ทางน้ำได้ต่อเนื่องเป็นวงกลม คือ
“เริ่มออกทางคลองกระดาษ คลองส้มป่อย ไปทางวัดสร้อยทอง อ้อมไปเข้าคลองบางซื่อ ผ่านวัดประดู่ธรรมธิปัตย์ วัดสะพานสูง เลี้ยวเข้าคลองเปรมประชากร แวะพักที่วัดแคราย (วัดเสมียนนารี) เพื่อถวายภัตตาหารเพลและถวายผ้าป่า แล้วต่อไปยังวัดสี่แยก (วัดเทวสุนทร) เลี้ยวเข้าคลองบางเขน คลองบางเขนใหม่ ผ่านวัดมัชฌันติการาม ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณสะพานพระราม ๖ มีการแข่งเรือ แล้ววกกลับสู่วัดเซิงหวาย”
แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนก่อน เพราะมาระยะหลังคลองต่างๆ ตื้นเขินบ้าง ติดประตูกั้นน้ำที่ไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ด้านในบ้าง ฯลฯ บางช่วงเลยต้องอัญเชิญหลวงพ่อขึ้นรถสลับกับลงเรือ
ภาพ/เรื่อง จาก : วารสารเมืองโบราณ